การสงคราม และคุณูปการณ์ ของ พระสุนทรราชวงศาฯ (เจ้าฝ่ายบุต)

  • ในระหว่าง พ.ศ. 2369 เกิดสงครามเจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์กับกรุงเทพมหานคร เจ้าฝ่ายบุตพร้อมกับเจ้าอุปราช (บุญมา) (ต่อมาได้รับแต่งตั้งขึ้นเป็นพระปทุมเทวาภิบาล เจ้าเมืองหนองคายคนแรก) และเจ้าราชบุตร (เคน) บุตรชายของเจ้าอุปราช (บุญมา) ได้นำกองกำลังเมืองยศสุนทรเข้าร่วมกองทัพเจ้าพระยาราชสุภาวดียกทัพไปปราบเจ้าอนุวงศ์ที่นครเวียงจันทน์ได้สำเร็จ
  • ปี พ.ศ. 2478 ในระหว่างที่พระสุนทรราชวงศาฯ ดำรงตำแหน่งเจ้าผู้ครองเมืองนครพนมได้ยกกำลังออกไปกวาดต้อนผู้คนทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ให้มาตั้งขึ้นเป็นเมืองต่าง ๆ ในเขตเมืองนครพนม เมืองสกลนคร เมืองมุกดาหาร และเมืองกาฬสินธุ์ ให้
  • ชาวผู้ไท จากเมืองวัง จำนวน 2,647 คน ตั้งเป็นเมืองขึ้นที่บ้านดงหวาย ซึ่งต่อมาได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งขึ้นเป็นเมืองเรณูนคร ให้ท้าวสายนายครัวเป็นพระแก้วโกมล เจ้าเมืองเรณูนครคนแรก เมื่อปี พ.ศ. 2387 ขึ้นกับเมืองนครพนม
  • ชาวแสก ซึ่งอพยพจากเมืองแสก อพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บ้านนาลาดควาย จำนวน 1,170 คน เมื่อปี พ.ศ. 2380 ต่อมาให้ตั้งขึ้นเป็นกองอาทมาต คอยลาดตระเวนชายแดน ต่อมาได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งขึ้นเป็นเมืองอาทมาตขึ้นกับเมืองนครพนม ให้ฆานบุดดีเป็นหลวงเอกสาร เจ้าเมืองอาทมาต จนถึงปี พ.ศ. 2450 จึงยุบลงเป็นตำบลอาจสามารถ อยู่ในอำเภอเมืองนครพนม
  • ชาวกะโซ่ จากเมืองฮ่ม เมืองผาบังทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง จำนวน 449 คน เมื่อปี พ.ศ. 2380 ตั้งเป็นเมืองที่บ้านเมืองราม และพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งขึ้นเป็นเมืองรามราช ขึ้นกับเมืองนครพนม ให้ท้าวบัวจากเมืองเชียงฮ่ม เป็นพระอุทัยประเทศเจ้าเมืองรามราช เมื่อปี พ.ศ. 2388 ต่อมาในปี พ.ศ. 2450 ได้ยุบลงเป็นตำบลรามราช อยู่ในอำเภอท่าอุเทน
  • ชาวโย้ย จากบ้านหอมท้าวทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง จำนวน 1,339 คน ไปตั้งเมืองอยู่ที่บ้านม่วงริมน้ำยาม เมื่อปี พ.ศ. 2380 ต่อมาได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งขึ้นเป็นเมืองอากาศอำนวยขึ้นกับเมืองนครพนม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2396 ให้ท้าวศรีนุราชเป็นหลวงพลานุกูล เจ้าเมืองอากาศอำนวยคนแรก ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2457 ได้โอนไปขึ้นกับเมืองสกลนครคือ ท้องที่อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร และอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม
  • ชาวไทย้อ เดิมอยู่ที่ปากน้ำสงครามริมฝั่งแม่น้ำโขง ต่อมาได้อพยพหลบหนีไปกับกองทัพเจ้าอนุวงศ์ ฯ เมื่อปี พ.ศ. 2369 ไปตั้งอยู่ที่เมืองหลวงปุเลง ทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง พระสุนทรราชวงศาฯ เจ้าผู้ครองเมืองนครพนมได้เกลี่ยกล่อมให้กลับมาตั้งเมืองอยู่ที่บ้านท่าอุเทนร้าง เมื่อปี พ.ศ. 2375 และได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งขึ้นเป็นเมืองท่าอุเทนขึ้นกับเมืองนครพนมในปีเดียวกัน และตั้งให้ท้าวพระปทุมเป็นพระศรีวรราช เจ้าเมืองท่าอุเทนคนแรก